Bumblebee (2018) สงครามจักรกล ล่าข้ามจักรวาล

Bumblebee (2018) สงครามจักรกล ล่าข้ามจักรวาล
Bumblebee หลังจากเนื้อหาของภาพยนตร์ชุด Transformers สามารถทำรายได้เป็นกอบเป็นกำไรช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ถึงจะสวนกระแสกับคำวิจารณ์ก็ตาม แต่คนก็ยินดีที่จะตีตั๋วเข้าไปจนมีโครงการสร้างต่อยาวๆไปอีก 30ปีข้างหน้า แม้ว่าภาคที่ 6 จะยังไม่มีกำหนดอะไรออกมาในเวลานี้ แต่ภาคเสริมเนื้อหาของตัวละครยอดนิยมอย่าง “บัมเบิ้ลบี” สงครามกลางเมือง ณ ดาวไซเบอร์ตรอน เหล่าทรานสฟอร์เมอร์ได้สู้รบกัน โดยแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ได้แก่ “ออโต้บอท” ชนเผ่าจักรกลที่รักความยุติธรรม รู้จักคุณค่าของชีวิต และการอยู่ร่วมกันกับทุกชีวิตในจักรวาล กับอีกฝ่ายคือ “ดีเซปติค่อน” หุ่นยนต์ฝ่ายที่เชื่อว่าเผ่าพันธุ์ของตน แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาล ทั้งสองฝ่ายห้ำหั่นกันจนดาวไซเบอร์ตรอนกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ออพติมัส ไพร์ม ผู้นำฝ่ายออโต้บอท ได้สั่งให้พรรคพวก ทิ้งดาวบ้านเกิด กบดาบตามที่ต่างๆในจักรวาล และมอบหมายให้ “บี-127″ ทหารคนสนิท ได้อพยพมายังโลก เพื่อเตรียมการสร้างกองกำลังออโต้บอทที่นั่น ในปี 1987 “บี 127″ นักรบชาวไซเบอร์ตรอนที่อยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัสจากการสู้รบ สูญเสียกล่องเสียงและความทรงจำ ก็ได้หนีมาซ่อนตัวในสุสานรถแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับ “ชาร์ลี วัตสัน” กำลังจะอายุ 18 เธออยู่ในครอบครัวระดับปานกลาง สูญเสียพ่อไป และแม่ก็กำลังมีความสุขกับสามีคนใหม่ ของขวัญวันเกิดที่อยากได้กลับไม่ใช่สิ่งที่เธอปรารถนา เธอรักในการซ่อมเครื่องยนต์และอยากจะมีรถของตัวเองสักคัน จนในที่สุด รถเต่าเหลืองคันนั้นก็ได้เป็นของเธอ รถเต่าสีเหลืองที่ผุพัง ผ่านศึกมาหนัก และในตอนนั้นเธอก็ได้เผลอทำให้“สปาร์ค”แหล่งพลังงานของทรานสฟอร์เมอร์ในตัวของ บี-127 ตื่นขึ้น แต่ในที่สุด ก็ได้พบว่า มันหาใช่แค่รถโฟล์กเต่าคันซอมซ่อธรรมดาๆ เพราะมันคือหุ่นยักษ์จากต่างดาวที่มาโลกเพื่อภารกิจบางอย่าง ความผูกพันระหว่างมนุษย์กับเอเลี่ยนหุ่นยนต์และสงครามที่มันลากมายังโลก ชาร์ลีดูแลนักรบไซเบอร์ตรอนที่ลงมายังโลก พร้อมตั้งชื่อว่า “บัมเบิ้ลบี” เธอก็ได้เรียนรู้เกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของมัน แต่ทางฝ่ายดีเซปติคอนเองก็ได้ส่งมือสังหารสองตัว “ดรอปคิก” และ “แชทเตอร์” ออกไล่ล่าบัมเบิ้ลบี และชาร์ลี งานนี้ร้อนถึงหน่วยงาน Sector 7 ต้องเข้ามามีส่วนร่วมในเรื่องราวครั้งนี้… ไมเคิล เบย์ ผู้กำกับบ้าพลังระเบิดก็สละมือจาก Transformers หนังใหญ่ยักษ์ของฮอลลีวู้ดเสียที แม้จะเป็นเพียงภาคสปินออฟก็ตาม โดยเอาตัวละคร บัมเบิ้ลบี จอมขโมยซีนที่คนดูรักและเอ็นดูเป็นพิเศษมาบอกเล่าเรื่องราว และเปลี่ยนโทนหนังต่างจากเดิมไปพอตัว โดยเน้นเรื่องการปรับตัวแบบก้าวผ่านวัย พร้อมกับสร้างสายสัมพันธ์กับเพื่อนต่างสปีชีส์ ที่สื่อสารกันด้วยภาษากายได้อย่างซาบซึ้งตรึงใจ