Diamonds Are Forever (1971) 007 เพชรพยัคฆราช

Diamonds Are Forever (1971)
Diamonds Are Forever เพชรพยัคฆราช เป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 7 ในภาพยนตร์ชุดบอนด์เดอะซีรีส์ ที่ค่ายภาพยนตร์อีโอเอ็น (EON) จัดทำขึ้น เป็นเรื่องที่ 6 และเรื่องสุดท้ายที่ฌอน คอนเนอรี่ รับบทเจมส์บอนด์ให้กับค่ายภาพยนตร์อีโอเอ็นนี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายในพ.ศ. 2514 กำกับโดย กาย ฮามิลตัน (Guy Hamilton) เรื่องราวของ เจมส์ บอนด์ (Sean Connery) ต้องมารับภารกิจตามล่าแก๊งลักลอบค้าเพชรเถื่อน บอนด์ก็ได้สืบเงื่อนงำไปจนถึงลาส เวกัส ก็ได้พบกับ ทิฟฟานี่ เคส (Jill St. John) สาวบอนด์ของเรื่อง และได้พบวายร้ายที่อยู่เบื้องหลังแผนร้ายครั้งนี้ ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ได้แก่ เอิร์นส์ สตาฟโร โบลเฟลด์ (Charles Gray) ศัตรูคู่แค้นดั้งเดิมของบอนด์มาตลอด และนี่คือหนังบอนด์-ฌอน คอนเนอรี่ ตอนสุดท้าย (แต่ไม่ท้ายที่สุด) การกลับมารับบทยอดสายลับเจมส์ บอนด์ ในภารกิจตามรอยเพชรเถื่อน โดยมีสาวเสน่ห์แรง ทิฟฟานี่ เคส เป็นตัวเชื่อมไปยังเบาะแสต่าง ๆ ซึ่งโยงไปที่ วิลลาร์ด ไวท์ นักธุรกิจลึกลับที่ไม่เคยปรากฎโฉมให้ใครพบเห็นมานานกว่าห้าปีแล้ว เพียงแต่ผู้อยู่หลังฉากจริง ๆ คือศัตรูคู่ปรับตลอดกาลของบอนด์ หมายเลขหนึ่งแห่งสเป็คเตอร์ "โบลเฟลด์" นั่นเอง ในภายหลังจากที่บอกลากับการเป็นบอนด์ และส่งไม้ให้จอร์จ ลาเซนบี้รับหน้าที่แทน ซึ่งเสียงตอบรับเข้าขั้น "ยี้" อย่างแรง ทำให้ผู้สร้างต้องหันกลับไปงอนง้อฌอน คอนเนอรี่กลับมารับบทนี้ด้วยค่าตอบแทนก้อนโต และนี่คือการกลับมาทำหน้าที่บอนด์เป็นครั้งสุดท้ายภายใต้การสร้างของ อิออน โปรดักชั่นส์ ของอัลเบิร์ต อาร์ บร็อคโคลี (แต่พอเข้าสู่ยุคต้นปี 80 คอนเนอรี่ก็กลืนน้ำลายตัวเองกลับมารับบทบอนด์วัยทองกับเขาอีกครั้งใน Never Say Never Again) และก็เหมือนงานทิ้งทวน คอนเนอรี่จัดเต็มสำหรับการเป็นบอนด์ครั้งสุดท้ายเพื่อให้แฟนมีภาพจำที่ดีก่อนลงจากสังเวียน และเป็นอีกครั้งที่หนังบอนด์เปิดตัวด้วยการที่บอนด์ออกตามล่าโบลเฟลด์โดยไม่ให้เห็นหน้า ซึ่งน่าจะเข้าใจได้ว่าต่อเนื่องจากตอนจบของภาคที่แล้ว บอนด์ตามล่าเพื่อล้างแค้นโบลเฟลด์ก่อนจะตัดเข้าสู่ฉากไตเติ้ลประจำเรื่อง ที่มีแมว เรือนร่างสาว และเพชร พร้อมด้วยเพลงนำชื่อเดียวกับหนัง โดย เชอร์ลี่ย์ แบสซี่ย์ ซึ่งเป็นการร้องเพลงนำบอนด์ครั้งที่สองของเธอ ก่อนหน้านี้คืออมตะนิรันด์กาล Goldfinger