Seven Samurai (1954) เจ็ดเซียนซามูไร
Seven Samurai เป็นภาพยนตร์แนวผจญภัยดราม่าซามูไร ในปี ค.ศ. 1954 ที่ร่วมประพันธ์เนื้อเรื่อง ,ตัดต่อ และกำกับโดย อะกิระ คุโระซะวะ โดยมีฉากอยู่ในช่วงปี ค.ศ. 1586[3] สมัยยุคเซ็งโงะกุ ในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น นับตั้งแต่ภาพยนตร์ออกฉายของ Seven Samurai ได้รับการจัดอันดับเป็นอย่างสูงในรายการนักวิจารณ์ของภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ เช่น Sight & Sound ของ BFI และ Rotten Tomatoes polls
หนังที่พูดถึง 7 ซามูไรพเนจรที่ถูกว่าจ้างจากเหล่าชาวนาให้มาปกป้องพวกเขาจากการรุกรานของโจรป่า ด้วยพล็อตเรื่องดังกล่าวนี้ในปัจจุบันก็ได้กลายเป็นสูตรสำเร็จของหนังแนวซามูไรทั่วๆไป แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่มีหนังเรื่องไหนที่สามารถทำได้ใกล้เคียงในระดับเดียวกัน เพราะการทำหนังสักเรื่องที่มีความยาวกว่า 3 ชั่วโมง โดยมอบความบันเทิงในแง่ของหนังดราม่า-แอ๊คชั่นซึ่งเปี่ยมด้วยมันสมอง และหลักปรัชญาชีวิต มันคงเป็นเรื่องที่ยากและไม่มีใครคาดคิดแน่ว่าหนังที่ออกมาสมบูรณ์แบบในระดับนี้จะเกิดขึ้นในช่วงยุค 50s
เป็นเรื่องราวของ ซามูไร ที่ทำงานผิดพลาดและจำต้องฮาราคีรีเพื่อรักษาเกียรติ แต่อากิระ รู้สึกว่าเขาค้นคว้าข้อมูลเท็จจริงในยุคนั้นไม่ได้เพียงพอก็เลยพับโครงการนี้เสีย จนกระทั่ง โซจิโร่ โมโตกิ ไปเจอเรื่องราวในยุคสงครามกลางเมืองที่ซามูไรไร้นายยอมทำงานปกป้องหมู่บ้านชาวนาเพื่อแลกกับอาหาร กลายเป็นไอเดียเริ่มต้นให้อากิระ เอามาขยายเป็นเรื่องราวของหมู่บ้านชาวนาที่โดนโจรปล้นครั้งแล้วครั้งเล่าจนต้องไปจ้างซามูไรมาปกป้องหมู่บ้านและต่อสู้กับพวกโจร ร่างแรกของหนังนั้นชื่อ “Six Samurai” ซึ่งอากิระ สร้างตัวซามูไรทั้ง 6 อิงมาจากซามูไรที่มีตัวจริงในประวัติศาสตร์ แต่อากิระมาทบทวนแล้วรู้สึกว่าน่าเบื่อเกินไปที่ตัวละครนำทั้งหมดมีแต่ ซามูไรดีล้วน เขาเลยเพิ่ม “คิคูชิโย” ซามูไรตัวที่ 7 ลงไป คิคูชิโยป็นลูกชาวนาที่แอบอ้างเป็นซามูไรจอมปลอม เป็นซามูไรคนสุดท้ายที่มาขอเข้าทีม และเป็นตัวละครที่มีความลึกที่สุด ด้วยการมีอดีตอันเลวร้าย
หนังมีชั้นเชิงการเล่าเรื่องที่ชาญฉลาด โดยใช้เวลาในต้นเรื่องเพียงไม่นานกับการปูพื้น และจัดรวมปัจจัยต่างๆที่สำคัญก่อนที่จะนำทั้งหมดนั้นมาขับเคลื่อนไปข้างหน้า ซึ่งแต่ละตัวละครหลักในเรื่องนั้นมีความเป็นมนุษย์อยู่สูงและมีพัฒนาที่ชัดเจนผ่านเรื่องราวและอุปสรรคต่างๆอยู่ตลอดทั้งเรื่อง หรืออีกนัยยะหนึ่งนั้นอาจหมายถึง ‘Kurosawa’ ต้องการส่งผ่านข้อคิดและหลักปรัชญาชีวิตผ่านตัวละครเหล่านั้น อีกทั้งฉากการรบก็เป็นส่วนสำคัญอีกอย่างหนึ่ง ที่แสดงให้เห็นถึงรูปแบบการรบด้วยมันสมอง โดยใช้กลยุทธ์ทางด้านยุทธศาสตร์และการชำนาญภูมิศาสตร์เข้าช่วย ซึ่งอาจไม่ใช่ฉากการรบที่ดูหวือหวา แข็งกร้าว แต่มันจะถูกทดแทนด้วยความเป็นธรรมชาติและเอกลักษณ์การรบของซามูไรแบบดั้งเดิมที่ผสมผสานเข้ากับการวางกลศึกในแบบฉบับของตำราพิชัยสงครามได้อย่างลงตัว