X-Men: Dark Phoenix (2019) X-เม็น ดาร์ก ฟีนิกซ์

X-Men: Dark Phoenix
X-Men: Dark Phoenix การออกเดินทางครั้งใหม่ของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่มนุษย์กลายพันธุ์ที่เสียงวิจารณ์ค่อนข้างจะก้ำกึ่งอยู่ไม่น้อย ซึ่งไม่กี่วันก่อนหน้านี้ ทีมนักแสดงจากภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวก็ไปปรากฏตัวในรายการดังอย่าง Jimmy Kimmel Live! และเผยถึงเบื้องลึกเบื้องหลังที่น่าสนใจเอามากๆ เรื่องราวของเหล่าจักรวาลมนุษย์กลายพันธุ์บนโลกภาพยนตร์นั้นเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2000 แตกขยายออกเป็นทามไลน์หลายหลากมากมายทั้งเส้นทางหลัก อดีต อนาคต หรือแม้แต่การโฟกัสตัวละครเดี่ยวอย่าง “โลแกน” วูล์ฟเวอรีน แต่ทั้งหมดนั้นกำลังจะนำไปสู่ตอนจบบทสุดท้ายใน X-Men Dark Phoenix X-เม็น ดาร์ก ฟีนิกซ์ ในวันที่โลกมีเทคโนโลยีอวกาศ ส่งยานออกไปนอกโลกแต่กลับเจอกับสิ่งแปลกประหลาดที่ไม่อาจเอาอยู่ จึงต้องขอความช่วยเหลือจากเหล่ามนุษย์กลายพันธ์ ดร.ชาร์ลส์ เซเวียร์/โปรเฟสเซอร์ X จึงส่งเหล่า X-เม็น ออกไปช่วยเหล่ามนุษย์อวกาศ เมื่อเหล่าเอ็กซ์เม็นได้รับภารกิจช่วยเหลือนักบินอวกาศที่ได้รับอุบัติเหตุอยู่นอกโลก ทีมประกอบไปด้วย จีน, ไซครอปส์, ไนท์คลอว์เลอร์, สตอร์ม, มิสทีคและบีสต์ เดินทางออกนอกโลกและช่วยเหลือนักบินอวกาศได้อย่างทุลักทุเล ได้เกิดอุบัติเหตุกลางอวกาศเนื่องจากมีวัตถุประหลาดบางอย่างคล้ายพายุสุริยะเข้ากระแทก เหล่ากลุ่มเอ็กซ์เม็นจึงตัดสินใจขึ้นไปช่วยถึงที่ แต่พวกเขาทำงานพลาดจน จีน เกรย์ โดนสิ่งคล้ายพายุสุริยะซึมเข้าไปในตัวเต็มที่ แม้จะดูรุนแรงแต่เธอกลับรอดตายมาได้ สิ่งที่เกิดขึ้นกับจีนตอนที่เธอกลับมาจากอวกาศคือเธอมีพลังในตัวจนควบคุมไม่ได้ และทุกอย่างในตัวจีนมันเพิ่มขึ้นมากจนปลดปล่อยตัวตนที่แท้จริงของเธอออกมา มันมีทั้งพลัง ความรู้สึก ความแค้น และกิเลส จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคนที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ สร้างความวุ่นวายไปหมด จนชาร์ลส์ เซเวียร์ (เจมส์ แม็คอวอย)และทีมเอ็กซ์เม็นต้องหาทางหยุดจีนไม่ให้ก่อวันโลกาวินาศจากพลังของเธอเอง นอกจากนี้โลกยังต้องเผชิญภัยร้ายจากต่างดาวนำโดย วุค (เจสสิกา แชสเทน) ที่หวังใช้พลังของจีนในการล้างบางโลกอีกด้วย หนังได้เน้นการเล่าเรื่องไปที่ “จีน เกรย์” มนุษย์กลายพันธุ์สาวผู้มีพลังจิตในระดับสูงไม่แพ้ ชาร์ล เซเวียร์ ซึ่งเธอได้พบกับอุบัติเหตุทำให้รังสีสุริยะประหลาดถูกดูดเข้าไปในตัว ส่งผลให้พลังของเธอเพิ่มพูนขึ้น (จากที่มากอยู่แล้ว) และที่เลวร้ายที่สุดก็คือ เธอไม่สามารถควบคุมมันเอาไว้ได้