X-Men: Days of Future Past (2014) สงครามวันพิฆาตกู้อนาคต
X-Men: Days of Future Past การรวมตัวต่อสู้กับสงครามครั้งยิ่งใหญ่ของเหล่าเอ็กซ์-เม็น เพื่อหาทางเอาตัวรอดจากสายพันธุ์ที่มีอายุข้ามสองยุคสมัยในภาพยนตร์เรื่อง X-MEN: DAYS OF FUTURE PAST เหล่าตัวละครโปรดจากภาพยนตร์ไตรภาค “X-Men” ต้นฉบับกลับมาผนึกกำลังร่วมกับตัวเองในอดีตจาก “X-Men: First Class”
ใน X-Men: Days of Future Past ว่าด้วยเรื่องอนาคตอีกทางหนึ่งของเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์ในปี 2023 เมื่อพวกเขาเกิดขัดแย้งกันเอง จนถูกกลุ่มที่ต่อต้าน จ้องทำลายล้างพวกเขาทั้งหมด กำจัดไปทีละคน ๆ และนำมาสู่หายนะของโลก โดยกองกำลังหุ่นยนต์ยักษ์เซ็นติเนลของ โบลิวาร์ ทราสก์ ที่ตามกวาดล้างและทำลายมนุษย์กลายพันธุ์ให้สูญสิ้นไปจากโลก กลุ่มเอ็กซ์เม็น ได้รวมตัวกันเพื่อต่อสู้กับหุ่นเซนติเนล
เมื่อ คิตตี้ ไพรด์ (เอลเลน เพจ) ผู้รอดชีวิตคนสุดท้ายของกลุ่ม ได้ใช้พลังของตัวเองเพื่อดึงจิตกลับไปยังอดีตส่ง Wolverine เดินทางย้อนเวลา ทำให้เขาได้พบกับ Professor X, Rogue และ Magneto ในอดีต อย่างไรก็ดี การเดินทางข้ามเวลาครั้งนี้ มนุษย์กลายพันธุ์มองหาโอกาสพาโลแกนกลับมายังโลกอนาคตด้วย และเหตุการณ์นี้เองที่ทำให้ Rogue กลายมาเป็นกุญแจสำคัญของเรื่อง และเตือนคนในอดีตให้ทราบถึงเหตุการณ์ที่กำลังจะมาถึง แต่เหตุการณ์เริ่มบานปลายเพราะพวกเขาเริ่มต้านความแข็งแกร่งของเซนติเนลไม่ไหว ทำให้คิตตี้จึงรีบดึงจิตของบิชอพและตัวเอง เพื่อหนีกลับไปยังอนาคตเช่นเดิม
จากการปรึกษากันระหว่างกบดานในที่ปลอดภัย โลแกนอาสาตัวเองเพื่อกลับไปยังอดีตเพื่อแก้ไขเหตุการณ์ก่อนที่มิสทีคหรือเรเวน (เจนนิเฟอร์ ลอวเรนซ์) จะสังหารโบลิวาร์ ทราสก์ (ปีเตอร์ ดิงเคลจ) ผู้ประดิษฐ์คิดค้นหุ่นเซนติเนล เพราะหลังจากเธอสังหารทราสก์ได้สำเร็จ เธอก็ถูกนำยีนไปสังเคราะห์เพื่อสร้างเซนติเนล โดยการดำเนินงานของสไตรค์เกอร์ (จอช เฮลแมน) ดังนั้นเมื่อหยุดมิสทีคไม่ให้สังหารทราสก์ได้ เซนติเนลก็จะถูกระงับการใช้งานไปด้วย คิตตี้จึงใช้พลังที่มีอยู่ของตัวเอง ดึงจิตของโลแกนกลับไปยังเหตุการณ์ในอดีต ซึ่งห่างจากปีที่พวกเขากำลังมีปัญหาถึง 50 ปี
ย้อนเวลากลับไปยังปี 1973 โลแกนตื่นขึ้นมาและรู้ว่ากรงเล็บของตัวเองยังเป็นกระดูก เขาออกตามหาคนที่จะพาเขาไปหยุดแผนการสังหารของมิสทีค สถานที่ที่เขาเลือกไปก็คือ โรงเรียนสำหรับผู้มีพรสวรรค์ของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ เซเวียร์ แต่คนที่เขาพบกลับเป็นแฮงค์ แม็คคอย / บีสต์ (นิโคลัส ฮอลท์) หรือที่รู้จักในนาม บีสต์ ก่อนที่ชาร์ลส์ (เจมส์ แม็คเอวอย) จะออกมาพบกับเขาในเวลาต่อมา หลังจากพูดคุยจนชาร์ลส์ตกลงที่จะช่วย ชาร์ลส์ได้บอกว่าจะต้องไปหาอีริค หรือแม็กนีโต้ เพราะเขาน่าจะช่วยเกลี้ยกล่อมเรเวน หรือมิสทีคได้
แล้วพวกเขาจะสามารถหยุดเรื่องราวเหล่านี้ได้หรือไม่ ในการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ที่ต้องเปลี่ยนแปลงอดีตเพื่อรักษาอนาคตของเราไว้